ต้องบอกว่าเป็นเรื่องราวการสู้ชีวิตที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ สำหรับ น้องผักกาด เด็กหญิงที่ต้องสู้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง เพราะพ่อแม่แยกทางกัน น้องผักกาด จึงต้องทำงานวันละ 9 ชั่วโมงเพื่อแลกกับโอกาสในการเรียน
โดย น้องผักกาด เผยว่า “ตอนนี้พ่อแม่ได้แยกทางกัน ไม่รู้ว่าแม่อยู่ที่ไหน เพราะแม่ก็ไม่ได้ติดต่อมา ส่วนพ่อก็ไปบวชที่วัดต่างอำเภอ ก็เลยต้องอยุ่ตัวคนเดียว ต้องหาเงินดูแลตัวเอง หากินเอง เพราะชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ก็ต้องสู้ต่อไป ตอนที่พ่อแม่ไป เขาคงคิดว่าหนูทำได้ เขาก็เลยไป หนูก็คิดว่าหนูทำได้ ไม่ต้องเป็นห่วง หนูพยายามของหนูได้
เมื่อก่อนพ่อกับแม่จะช่วยกันขายของ แต่ค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอ หนูก็เลยต้องออกไปช่วยแบ่งเบาภาระ ออกไปทำงานพิเศษวันหยุด ช่วยเสริฟอาหาร เครื่องดื่ม จัดร้าน ช่วยเตรียมผัก เตรียมเครื่องปรุงให้แม่ครัว เมื่อก่อนตอนพ่อแม่ยังอยู่ด้วยกัน ตื่นเช้ามาก็จะขายหมูปิ้ง
หลังจากแยกทางกัน พ่อก็เก็บของออกไป เช้าวันต่อมาแม่ก็ให้หนูไปส่งที่ขนส่ง มันกระทันหันมาก หนูต้องหยุดเรียนไปสองสามวัน เพื่อทำใจ แล้วรีบกลับมาทำงานต่อ เรียนเสร็จประมาณ 4 โมง ก็เข้าร้านแบบชุดนักเรียน ทำงานยาวถึงช่วง 6 ทุ่ม หรือ ตี 1 เลย หนูว่ามันหนักมาก ๆ ถ้าไม่ทำก็ไม่มี อาจจะยากหน่อยแต่ก็จะดิ้นรนทำให้ได้
ทุกวันต้องขนการบ้านไปทำที่ร้านด้วย ถ้าไม่มีส่งมันจะรู้สึกผิดต่อพ่อแม่ ถึงจะอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้เสียใคร ยังไงก็ได้ชื่อว่าเป็นลูกเขา ก็ควรจะเป็นลูกที่ดีให้เขา จะพยายามเก็บเงินเรียน สอบให้ได้ทุน ถ้าเงินไม่พอก็จะหางานทำเพิ่ม ยังไงก็อยากเรียนต่อสูง ๆ หนูว่าหนูทำได้ หนูเอื้อมได้ ไม่ได้มองว่าโลกมันจะโหดร้ายเกินไปมันมีทั้งด้านดีและด้านร้าย”
อย่างไรก็ตามต้องขอชื่นชมความคิด ความอดทน และความใจสู้ของ น้องผักกาด ที่สามารถฝ่าฝันอุปสรรคต่าง ๆ ด้วยตัวเอง รวมทั้งไม่ทิ้งการเรียนเพื่ออนาคตที่ดีในอนาคต