ต้องบอกว่าชีวิตพลิกผันจริง ๆ สำหรับนักแสดงตลก น้องเฮอริเคน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ CV-19 ทำให้ไม่มีงาน จนบ้านโดนยึด ไร้ที่อยู่ แถมแม่ก็ทิ้งไปให้อยู่กับพ่อและน้องสาววัยสามขวบครึ่ง ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ไม่ขอรับเงินบริจาค แต่อยากได้งานทำมากกว่า
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา ด.ช.กรขจิณ กลิ่นขจร หรือ น้องเฮอริเคน อายุ 12 ปี และ นายอรินทร กลิ่นขจร ผู้เป็นพ่อ ได้เปิดใจกับสำนักข่าวชื่อดัง โดย น้องเฮอริเคน กล่าวว่า ชีวิตตอนนี้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก ตั้งแต่ช่วง CV รอบที่ 3 แม่ขนของออกจากบ้านไปโดนที่ไม่บอกว่าจะไปไหนเลย ตนเคยถาม แต่แม่ก็ไม่ตอบ
จากที่แต่ก่อนในบ้านอยู่กัน 7 คน ตอนนี้เหลือกันอยู่แค่ 3 คนเท่านั้น มีตน พ่อและน้องฮาวาย น้องสาวอายุประมาณ 3 ขวบครึ่ง ส่วนพี่ชายอีก 2 คน ออกไปหางานทำข้างนอก ไม่ได้กลับมาที่บ้าน ตนก็เลยเป็นคนรับผิดชอบหน้าที่ที่แม่เคยทำแต่ก่อน คือ ตื่นมาดูแลน้อง พาน้องกินข้าว ทำงานบ้าน ล้างจาน ถูบ้าน เราทำหน้าที่แทนหมดเลย แต่ก็ทำได้ไม่ดีเท่าเขา
นอกจากนี้งานที่เคยมีให้ทำก็ไม่มีแล้ว เลยหันมาไลฟ์สดขายต้นไม้ในเฟซบุ๊กของตัวเองแทน ช่วงแรก ๆ ก็ขายได้วันละ 2,000 บาท แต่พักหลังยอดที่ขายได้ก็ลดลง ตอนนี้ตนจึงหยุดขายไปก่อน เพราะว่ากล้องโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายเบลอ ทำให้ลูกค้าเห็นสีต้นไม้ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ อยากจะซื้อใหม่ เพื่อเอามาต่อยอดทำคลิป แต่โทรศัพท์มือถือก็ราคาสูง เคยไปดูโทรศัพท์กับพ่ออยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่กล้าซื้อ แถมตอนนี้เพจหลักของคนที่ขึ้นต้นด้วยสระแอ ก็ถูกแฮ็กไปอีก พอมาเปิดเพจใหม่ที่เป็นชื่อของตัวเองก็ถูกปิดกั้น ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
ตอนนี้บ้านที่อาศัยอยู่ก็กำลังจะถูกยึด เนื่องจากไม่ได้ส่งบ้านมาหลายเดือน ถ้าหากอยากได้บ้านคืนต้องเอาเงินก้อนมาประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งผมไม่มีเงิน เลยจำเป็นต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะย้ายไปอยู่ไหน และยังมีหนี้สินต่าง ๆ รวมรายจ่ายแต่ละเดือนแล้วก็ประมาณ 3-4 หมื่นบาท ตอนนี้พ่อก็เป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดคนเดียว
รู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อน แต่ก่อนอยู่อย่างสบาย ตอนนี้ลำบากมาก หลังจากเป็นข่าวแม่ก็ไม่ได้ติดต่อมา นานทีจะส่งข้อความมาหาบอกว่าคิดถึงน้อง รักน้อง รักผม ตอนนี้ก็คิดถึงกับข้าวฝีมือแม่เพราะว่าแม่ทำกับข้าวอร่อย เราไม่ได้กินมาปีกว่าแล้ว ทุกวันนี้ก็ไปซื้อข้าวต้มเปล่า ๆ มากินกับไข่เจียวบ้าง มาม่าบ้าง แล้วก็ข้าวแกงบ้าง ที่ผ่านมายอมรับว่าท้อ แต่ทุกครั้งที่ท้อก็จะไปเล่นกับน้อง เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น
ด้านคุณพ่อ กล่าวว่า ที่เราลงคลิปไม่ได้ต้องการให้ดราม่ากัน เราแค่ให้ลูกได้พูดคุยกับแฟนคลับ แล้วเขาก็พูดเรื่องแม่ของเขาขึ้นมา ยอมรับว่าชีวิตเปลี่ยนไปมาก วันที่ 10 ก.พ.นี้ บ้านจะถูกขายทอดตลาดแล้ว ก็ต้องรอดูประกาศว่าจะสามารถอยู่ที่บ้านได้อีกกี่วัน ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะไปอยู่ที่ไหน จะเช่าบ้านอยู่หรือเป็นห้องเช่า ก็ยังตอบไม่ได้ แต่คงจะอยู่แถวโซนนี้ เพราะว่าไม่อยากให้ลูกต้องย้ายโรงเรียน
เรามีอาชีพเป็นนักดนตรี ตอนนี้งานก็ไม่ได้มีเหมือนเดิมแล้ว จะไปรับจ้างอะไรก็ค่อนข้างลำบาก เพราะว่ามีลูกอ่อน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็สู้มาตลอด ไม่ใช่ไม่สู้เลย เรามองเห็นลูกที่ช่วยกันทำมาหากิน ผมคิดว่าโชคดีที่มีเขา เขาเพิ่งจะอายุ 12 ปีเอง ช่วงวัยเด็กของเขาหายไปเลย เพราะเขาต้องทำงานตลอด จนถึงตอนนี้เขาก็ยังสู้อยู่ เราก็อยากขอบคุณทุกคนที่พอมีปัญหานี้เข้ามา หลายคนก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แฟนคลับของลูกบางคนก็ขอเลขบัญชี แต่เราไม่ได้ให้ไป เราอยากได้งานมากกว่า
ซึ่งตอนนี้ก็มีงานติดต่อ น้องเฮอริเคน ให้ไปเล่นซิทคอม 1 ตอน และมีเท่ง เถิดเทิง โทรมาหาบอกให้ไปถ่ายคลิปด้วยกัน และอีกหลายคนที่โทรมาให้กำลังใจด้วย ตนก็อยากฝากช่องยูทูบเฮอริเคน แฟมิลี่ แชนแนล และเฟซบุ๊กน้องเฮอริเคน กลิ่นขจรด้วย
อย่างไรก็ตามขอเป็นกำลังใจให้น้องเฮอริเคนและครอบครัวสามารถฝ่าฝันช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้โดยเร็ว
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสดออนไลน์ และภาพจากอินสตาแกรม hurricen_glinkhajorn